บทที่ 3 3
“อย่าทำ...ไม่นะ” แค่การโอ้โลมท่อนบนญาดาก็อ่อนปวกเปียกราวกับขี้ผึ้งลนไฟ สิ่งที่เขากำลังกระทำตอนนี้หนักหนากว่ามากนัก ลมหายใจของญาดาขาดๆหายๆ ติดขัด คล้ายกับว่าเธอกำลังลอยอยู่บนอวกาศหายใจออกมาเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ใบหน้าสวยส่ายไปมากับหมอน ผมของเธอที่รวบไว้เรียบตึง หลุดลุ่ย มือเล็กจับเรือนผมของเขาไว้แน่น บางครั้งดึงทึ้ง เพราะไม่อาจทานทนกับความเสียวซ่านที่รวมตัวอยู่ที่ดอกกุหลาบช่องามได้
‘รสชาติดีเหลือเกิน’คาลิเอโปคิดในใจ ขณะที่เขาซุกใบหน้าดอมดมกุหลาบงามไม่ยอมห่าง จูบซับด้วยปลายจมูก พลิ้วไหวกลีบดอกด้วยปลายลิ้นสากเกี่ยวกระหวัดไปมาอยู่ภายใน ดื่มกินน้ำแห่งแรงปรารถนาที่เอ่อล้นออกมา เกสรเม็ดน้อยๆ ถูกไรฟันขบเม้มเบาๆ ร่างกายสาวสั่น ขนลุก ความเสียวซ่านก่อรวมตัวเป็นเกลียวคลื่น สาดซัดเข้าไปในร่างกายสาวของญาดา หญิงสาวกรีดร้องออกมาสุดเสียง จิกเล็บที่บ่ากว้างแน่น หลังบางแอ่นโค้ง หาลมหายใจของตัวเองไม่เจอ เพราะเธอเห็นแสงไฟมากมายลอยอยู่ตรงหน้า จากนั้นแสงไฟก็ระเบิดออกมาเต็มใบหน้างาม ตัวของเธอลอยขึ้นพลิ้วไหวต้องกับสายลมที่พัดอยู่บนฟากฟ้า พาร่างกายสาวขึ้นไปสู่วิมานฉิมพลี
ร่างกายของญาดาอ่อนระทวย หลับตาพริ้ม หอบหายใจแรง ความ ไร้เดียงสาของหญิงสาวทำให้ไม่รู้ตัวเลยว่า ณ ขณะนี้คาลิเอโปผละไปจัดการกับเสื้อผ้าของตน ก้าวขึ้นมาบนเตียง แยกเรียวขางามออกกว้าง เพื่อที่เขาจะเติมเต็มความต้องการเข้าไปในกุหลาบงาม
“ยะ...อย่า” เสียงของเธอแหบโรย หวังว่าเสียงนั้นจะหยุดยั้งการกระทำของเขา แต่เปล่าเลยสติของคาลิเอโปไม่หลงเหลือ ภายในห้วงจินตนาการและห้วงคำนึง คิดเพียงว่าหญิงสาวคนนี้คือ วรัญชิญา
“โอ๊ย!!...กรี๊ดดด” เสียงที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้ร่างหนาชะงัก ช่องทางที่เล็กและคับแคบทำให้สติของเขากลับคืนมา อาการเมาแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ดวงตาคมกล้ามองใบหน้าของหญิงสาวใต้ร่างแบบเต็มสองตา ไม่ใช่...ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่วรัญชิญา แล้วเธอเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้เขากำลังทำอะไร เขากำลังนอกใจวรัญชิญาคำถามมากมายถาโถมเข้ามาราวกับน้ำที่ไหลออกมาจากก๊อก เธอดิ้นทุรนทุรายหนีความเจ็บปวดจากเรือนกายอันยิ่งใหญ่ที่พยายามจะฝ่าความเล็กคับเข้าไปคาลิเอโปอยากจะหยุดทุกอย่าง ถอนร่างกายออก แต่ทว่าเขากลับไม่ทำ กลับเดินหน้าต่อ โดยไม่รู้ว่าเหตุผลที่เขาทำอย่างนี้เพราะอะไร
“ทนเจ็บอีกนิดเชื่อฉัน ไว้ใจฉัน” เขาพูดชิดริมฝีปากนุ่ม ก่อนจะมอบจูบที่หวานปานน้ำผึ้งให้กับเธอ เป็นการปลอบประโลม บังเกิดความเพลิดเพลิน เบี่ยงเบนความเจ็บปวดให้กลายเป็นความเสียวซ่าน ปากหนากำลังทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ฝ่ามือใหญ่ช่วยอีกแรงด้วยการเคล้นคลึงทรวงอกที่ใหญ่เกินมือเขาอย่างสำราญ สะโพกหนาขยับรุกล้ำเข้าไปในกุหลาบงามอย่างช้าๆ ใจเย็น จนกระทั่งเขาผ่านพ้นใยบางๆ ของพรหมจรรย์คาลิเอโปตัดสินใจกระแทกตัวตนเข้าไปจนสุด กลืนเสียงกรีดร้องของเธอเข้าไปในลำคอหนา
เอวสอบเริ่มขยับอีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่จับที่เรียวขาทั้งสองข้างของญาดาให้แยกออกกว้างที่สุด เพื่อที่เขาจะได้เคลื่อนกายได้สะดวก ความสดใหม่ที่เขาได้รับ มันทำให้เชือกที่ผูกเงื่อนตายมายาวนานกว่า 4 ปีสะบั้นลง จังหวะที่โจนจ้วงเริ่มถี่และเร็วขึ้น เสียงครางหวานของหญิงสาวเป็นแรงผลักดันอย่างดี มันทำให้เขารู้สึกฮึกเหิม ย่ามใจ ถาโถมเข้าใส่อย่างไม่ออมแรงญาดาบิดร่างกายไปมาเมื่อรู้สึกว่ากุหลาบงามมีอาการบางอย่าง มันเสียวซ่านวาบหวามใจ ยิ่งเขาออกแรงส่งเข้าหาเร็วและแรงมากเท่าไหร่ ร่างกายสาวลอยขึ้นสู่ผืนฟ้าเร็วเท่านั้น
และแล้วความรู้สึกที่เรียกว่าความสุขสมเดินทางมาหาเธออีกครั้งหนึ่งญาดากรีดร้องจิกเล็บไปที่ลำแขนหนาของเขาแน่น ริมฝีปากนิ่มที่เผยอปากร้องคราง ทำให้คาลิเอโปอดใจไม่อยู่ ก้มลงจูบเธออีกครั้ง ก่อนจะแหงนหน้าสูด ลมปากระบายความสยิว ช่องทางเล็กรัดความยิ่งใหญ่ของเขาแน่นสุดจะทานทน เขาทะยานเข้าสู่กุหลาบงามอีกหลายครั้งอย่างสุดแรง ปลดปล่อยความอัดอั้นที่กินระยะเวลานานถึง 4 ปีพุ่งทะยานเป็นสายน้ำ จนญาดารู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนที่ไหลบ่าออกมา
ชายหนุ่มพลิกกายลงนอนหอบที่เตียงนุ่มญาดานอนตะแคงขดตัวร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาปรายตามองหญิงสาวข้างกายเพียงนิด รู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ เขาทรยศวรัญชิญา สัญญาที่เคยให้ไว้ในวันที่ฌาปนกิจศพของเธอว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหน จะรักและมอบหัวใจให้เธอเพียงคนเดียว สัญญาข้อแรกคาลิเอโปทำไม่ได้ เพราะชายหนุ่มเพิ่งผ่านสมรภูมิพิศวาสกับสาวนิรนามไปไม่ถึงหนึ่งนาที แต่เขามั่นใจว่าสัญญาข้อที่สองว่าจะรักมั่นมอบใจให้เธอเพียงคนเดียวนั้นคาลิเอโปทำได้แน่นอน
“นี่ค่าตัวเธอ...แต่งตัวแล้วออกไปจากห้องนี้ได้แล้ว” เขาโยนเงิน ปึกใหญ่สองปึกกระทบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของญาดาเธอกัดริมฝีปากแน่นข่มความสมเพชของตัวเองเต็มที่ ไม่นึกเลยว่า ความสาวของเธอจะสูญสิ้นในวันนี้ ถูกชายที่ไม่เห็นค่าพรากไปเพราะคิดว่าเธอคือหญิงสาวอีกคน ทำไมหนอ...ชีวิตของเธอถึงเป็นได้แค่เพียงเงาของผู้ชายเสมอ วีรเทพชายคนรักคนแรกของเธอเขาไม่ได้รักเธออย่างที่พูด เขาเห็นเธอเป็นเพียงเงาของพี่สาวที่จากไปเท่านั้นญาดาโง่ที่ปักใจเชื่อรักว่าที่พี่เขยคนนี้ ดีที่ว่าเธอรู้ความจริงเสียก่อนไม่เช่นนั้นหญิงสาวต้องทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต
กับเขาคนนี้ก็เหมือนกันคาลิเอโปเห็นเธอเป็นเพียงเงาของวรัญชิญาคนรักเก่า พรากความสาวที่หวงแหนเท่าชีวิตไป ทั้งยังตอกย้ำความเจ็บปวดด้วยการโยนเงินอันน้อยนิดให้ จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก คราแรกเธอไม่ยินยอม ขัดขวาง เตือนสติเขาทุกอย่างที่ทำได้ แต่ต่อมาคือการยินยอมพร้อมใจ
ญาดาพยุงกายลุกขึ้นหลังจากที่เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ แม้ว่าจะเจ็บปวดร่างกายมากแค่ไหน เธอก็พยายามลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าที่พื้นมาสวมใส่ ค่อยๆ ก้าวเดินออกไปจากห้อง ไม่สนใจเงินสองปึกนั่นแม้แต่นิดเดียว
คาลิเอโปเดินออกมาจากห้องน้ำในอีกสิบห้านาทีต่อมา สายน้ำที่เย็นฉ่ำสามารถทำให้จิตใจของเขาดีขึ้น ชายหนุ่มไม่เห็นร่างของหญิงสาวที่มอบความสุขให้เขาจนล้นอก เห็นเพียงเงินสองปึกใหญ่ที่เขามอบให้เธอ...กับ...รอยเลือดจางๆ บ่งบอกได้ว่าเธอคือสาวบริสุทธิ์ ความร้อนรุ่มเกิดขึ้นกับร่างกายของเขาเมื่อนึกถึงเธอ ไม่ได้ เขานึกถึงเธอไม่ได้ หัวใจของชายหนุ่มมีหญิงเดียวที่อยู่ในดวงใจ หญิงนั้นคือ วรัญชิญา
“ให้แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องด้วย” ชายหนุ่มยกหูโทรศัพท์บอกความต้องการกับโอเปอเรเตอร์ของทางโรงแรม เดินออกไปจากห้องนอนตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เพื่อดื่มบรั่นดีดีกรีร้อนแรง ก่อนจะเดินถึงบาร์ขนาดเล็ก เท้าของเขาเหยียบสิ่งหนึ่ง คาลิเอโปหยิบมันขึ้นมา สิ่งนั้นคือ ป้ายชื่อของพนักงานห้องอาหารนานาชาตินามว่า ญาดา
